สภาพทางกายภาพของจังหวัดชลบุรี
ลักษณะภูมิประเทศมีการผสมผสานกันมากถึง
5 แบบ ทั้งที่ราบลูกคลื่นและเนินเขา
ที่ราบชายฝั่งทะเล ที่ราบลุ่มแม่น้ำบางปะกง
พื้นที่สูงชันและภูเขา ที่ราบลูกคลื่นและเนินเขาของชลบุรี
พบได้ทางด้านตะวันออกของจังหวัด ในเขตอำเภอบ้านบึง
พนัสนิคม หนองใหญ่ ศรีราชา บางละมุง สัตหีบ
และบ่อทอง พื้นที่นี้มีลักษณะสูงๆ ต่ำๆ
คล้ายลูกระนาด ปัจจุบันพื้นที่นี้ส่วนใหญ่ถูกใช้ไปในการปลูกมันสำปะหลัง
ที่ราบชายฝั่งทะเล พบตั้งแต่ปากแม่น้ำบางปะกง
ถึงอำเภอสัตหีบ เป็นที่ราบแคบๆชายฝั่งทะเล
มีภูเขาลูกเล็กๆ สลับเป็นบางตอน พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำบางปะกง
มีลำน้ำคลองหลวง ต้นน้ำอยู่ที่อำเภอบ่อทองและอำเภอบ้านบึง
ผ่านพนัสนิคม ไปบรรจบเป็นคลองพานทองไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง
โดยดินตะกอนอันอุดมสมบูรณ์จากการพัดพาของแม่น้ำบางปะกงนี้เอง
ได้ก่อให้เกิดที่ราบลุ่มเหมาะสมต่อการเกษตรกรรม ส่วน พื้นที่สูงชันและภูเขา นั้น อยู่ตอนกลางและด้านตะวันออกของจังหวัด
ตั้งแต่อำเภอเมืองฯ บ้านบึง
ศรีราชา หนองใหญ่ และบ่อทอง ที่อำเภอศรีราชานั้นเป็นต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำบางพระ
แหล่งน้ำอุปโภคบริโภคหลักแห่งหนึ่งของชลบุรี
จังหวัดชลบุรีมีชายฝั่งทะเลยาวถึง 160 กิโลเมตร เว้าแหว่งคดโค้งสวยงาม เกิดเป็นหน้าผาหิน
หาดทรายทอดยาว ป่าชายเลน ป่าชายหาด ฯลฯ ซึ่งอ่าวหลายแห่งสามารถพัฒนาไปเป็นท่าจอดเรือกำบังคลื่นลมได้เป็นอย่างดี
อาทิ ท่าจอดเรือรบที่อำเภอสัตหีบ
เป็นต้น สำหรับ เกาะ
สำคัญๆมีอยู่ไม่น้อยกว่า 46 เกาะ เช่น เกาะสีชัง เกาะค้างคาว
เกาะริ้น เกาะไผ่ เกาะลอย เกาะล้าน เกาะครก
เกาะสาก เกาะขาม เกาะแสมสาร และเกาะครามที่อยู่ในเขตทหารเรือของอำเภอสัตหีบ
เป็นแหล่งเพาะพันธุ์และอนุบาลเต่าทะเลที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ของไทย
เป็นต้น โดยเกาะเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นปราการธรรมชาติ
ช่วยป้องกันคลื่นลม ทำให้ชลบุรีไม่ค่อยมีคลื่นขนาดใหญ่
ต่างจากจังหวัดระยอง จันทบุรี
และตราด ซึ่งมักมีคลื่นใหญ่กว่า
ด้วยเหตุนี้เองชายฝั่งของชลบุรีจึงเต็มไปด้วยท่าจอดเรือประมง
และเหมาะแก่การสร้างท่าจอดเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ อาทิ ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นต้น
ภูมิประเทศอันหลากหลายดังกล่าว หล่อหลอมให้ชลบุรีสามารถพัฒนากิจกรรมต่างๆได้อย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตร อุตสาหกรรม
การพาณิชย์ การท่องเที่ยว และการคมนาคมที่สะดวกสบาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น