ทุ่งกุลาร้องไห้
เมื่อหลายพันปีมาแล้วบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันเป็นทะเลมาก่อน
ในทะเลแห่งนี้มีได้สัตว์น้ำน้อยใหญ่อาศัยอยู่มากมาย ได้มีเมืองจำปานาคบุรี
ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของทะเลแห่งนี้
เจ้านครจำปานาคบุรี
มีธิดาชื่อว่า นางแสนสี และยังมีหลานสาวอายุไล่เลี่ยกันชื่อว่า นางคำแพง หญิงสาวทั้งสองมีรูปร่างหน้าที่สวยสดงดงามเป็นที่ต้องตาต้องใจของชายทั้งหลาย
ท้าวนครจำปานาคบุรี ได้จัดให้มีคนคอยเผ้าดูแลอย่างดี ผู้ดูแลชื่อว่า จ่าแอ่น
ซึ่งจะคอยตามติดอยู่ทุกฝีก้าวไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม และในเมืองจำปานาคบุรีแห่งนี้
ได้มีนาคที่มีอิทธิฤทธิ์สูงอยู่ตนหนึ่ง
ซึ่งหากมีชาวเมืองได้รับความเดือดร้อนก็จะให้ความช่วยเหลือ จนเมืองนี้ได้ชื่อว่า
นาคบุรี
ในครั้งนั้นมีเมืองอยู่อีกเมืองหนึ่งที่มีชื่อว่าบูรพานครตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเล
ท้าวผุ้ครองนครมีโอรสชื่อว่า ท้าวฮาดคำโปง และมีหลานชายชื่อว่า ท้าวอุทร ทั้งสองได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาการต่อสู้มา
จึงจะลองวิชาโดยจะไปต่อสู้กับนาคที่เมืองจำปานาคบุรีตามคำสั่งของอาจารย์
เมื่อทั้งสองได้เดินทางไปถึงเมืองจำปานาคบุรียังไม่ทันได้ลองวิชา
ทั้งสองหนุ่มกลับไปสนใจธิดาและหลานสาว ทั้งสองจึงพยายามที่จะติดต่อกับนางทั้งสองแต่ก็ถูกกีดกันจากจ่าแอ่นผู้ดูแล
แต่ชายหนุ่มทั้งสองก็ยังคงพยายามต่อไป
และได้รู้มาว่าทุกๆเจ็ดวันนางทั้งสองจะออกมาเล่นน้ำที่ทะเล
ต่อมาหญิงทั้งสองก็ออกไปเล่นน้ำ
พร้อมด้วยบริวารตามปกติ
ชายทั้งสองเห็นเป็นโอกาสอันดีจึงเสกผ้าเช็ดหน้าให้เป็นหงส์ทองไปขวางเรือไว้
นางอยากได้จึงให้จ่าแอ่นพายเรือตามไปเก็บ
ยิ่งตามยิ่งลึกเข้าไปในทะเลแต่ก็ยังไม่สามารถจับ
มารู้สึกตัวอีกครั้งก็อยู่กลางทะเลเสียแล้ว
ท้าวทั้งสองเห็นจึงเอานางทั้งสองและบริวารขึ้นเรือของตนไป
เมื่อเจ้าเมืองจำปานาคบุรีทราบเรื่องเข้าจึงได้ไปขอให้นาคช่วย
นาคจึงบรรดาลให้พื้นทะเลสูงตัวขึ้น น้ำทะเลเหือดแห้งไป
เรือของท้าวฮาดคำโปงและท้าวอุทรไม่สามารถที่จะแล่นต่อไปได้
จึงเอาจ่าแอ่นไปซ่อนในป่า บริเวณดังกล่าวจึงมีชื่อเรียกว่า ดงจ่าแอ่น
เอานางแสนสีไปซ่อนไว้อีกที่หนึ่ง จึงเรียกว่า ดงแสนสี
และเอาหญิงหลานเจ้าเมืองไปซ่อนอีก จึงเรียกบริเวณนั้นว่า ดงป่าหลาน
เมื่อน้ำในทะเลทั้งหมดแห้งเหือดไปสัตว์ต่าง ๆ ในทะเลก็พากันตายหมด
นกทั้งหลายพากันไปกินซาก ซึ่งกินอยู่ประมาณครึ่งเดือนกว่า กุ้งหอยปูปลาในทะเลก็หมด
ก็ได้พากันขี้ทิ้งกองรวมกันไว้เป็นกองใหญ่มาก จนเรียกบริเวณนั้นว่า โพนขี้นก
ท้าวฮาดคำโปง ท้าวอุทร
นางแสนสีและนางคำแพง ติดอยู่กลางทะเลที่แห้งเหือดนั้น
แต่ชายทั้งสองเกิดหลงรักนางแสนสี จึงเกิดการต่อสู่ขึ้น ท้าวฮาดคำโปงแพ้ถูกฆ่าตาย
จึงกลายเป็นผีเฝ้าทุ่ง ในเวลากลางคืนจะกลายเป็นแสงไฟลอยตามหานางแสนสี
ชาวบ้านแทบทุ่งกุลาร้องไห้เรียกว่า ผีโป่ง หรือ ผีทุ่งศรีภูมิ
ฝ่ายเจ้าเมืองจำปานาคบุรีเกิดความเห็นใจทั้งธิดาของตนและท้าวอุทรที่ต้องรอนแรมอยู่กลางทุ่งที่แห้งแล้ง
จึงอภัยให้ท้าวอุทรหลังจากที่โกรธมานาน จึงมอบไพล่พลไปสร้างดงเท้าสาร หรือ
เมืองเท้าสาร และยอมยกนางแสนสีให้เป็นมเหสีของท้าวอุทร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น