วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สาวิตรี

สาวิตรี


ท้าวอัศวบดี เป็นเจ้าเมืองครองเมืองมัทรชนบทไม่มีบุตรสืบสกุลเลยจึงได้บำเพ็ญเพียรเป็นเวลา 18 ปี นางสาวิตรีซึ่งเป็นมเหสีของพระอินทร์ได้เห็นความเพียรของท้าวอัศวบดี จึงได้ขอลงมาเกิดเป็นลูกของท้าวอัศวบดี และได้ชื่อว่า สาวิตรี
เมื่อนางโตเป็นสาวจนอายุน่าจะมีสามีได้แล้วบิดาของนางก็เกิดความกังวลเพราะนางไม่เคยมีใครมาเกี้ยวพาเลยแม้นางจะมีรูปโฉมงดงามและมีจิตใจดีก็ตาม แต่อาจเป็นเพราะนางอยู่สูงเกินเอื้อมก็ได้
วันหนึ่งมีพราหมณ์ผู้หนึ่งมาพูดคุยกับบิดาของนางอยู่ และได้ทำนายเรื่องคู่ครองให้นางว่าเนื้อคู่ของนางเป็นชายรูปงามมียศถาบรรดาศักดิ์สูงแต่จะมีอายุสั้น นางได้ฟังดังนั้นก็รีบตอบตกลงเลือกพระสัตวานเป็นพระสวามีทันที โดยไม่ฟังคำทัดทานของบิดา จากนั้นงานอภิเษกก็เกิดขึ้น
นางต้องเดินทางเข้าป่าเพื่อไปหาพระสัตวาน และอยู่ปรนนิบัติรับใช้พระสวามี บิดาและมารดาของพระสัตวานอย่างดี จนวันที่พระสัตวานต้องสิ้นพระชนม์ ก็ทรงเข้าไปเก็บผลไม้ในป่าโดยนางได้ติดตามไปด้วย พระยมซึ่งเป็นผู้มารับเอาดวงวิญญาณของพระสัตวานก็มาทำหน้าที่ แต่นางสาวิตรีไม่ยอม  จึงเดินติดตามพระยมพร้อมทั้งได้กล่าวคำสรรเสริญ คารมต่างๆ จนพระยมเห็นใจและให้นางขอพรได้ 1 ข้อยกเว้นขอชีวิตพระสัตวาน นางจึงได้ขอพรและกล่าวคำสรรเสริญอีก สรุปนางได้ขอพรไป 4 ข้อ ดังนี้
ข้อนางขอให้บิดาของพระสัตวานมีดวงตาที่สดใส เพราะตอนหลบหนีมาทรงตาอักเสบ
ข้อ2นางขอให้บิดาของพระสัตวานกลับไปครองนครดังเดิม
ข้อ3นางขอให้บิดาของนางมีโอรสไว้สืบสกุลร้อยองค์
ข้อ4นางขอให้นางมีโอรสไว้สืบสกุลร้อยองค์เช่นกัน
พระยมก็ขอให้พรทั้งหลายจงสำเร็จทุกประการ แต่นางแย้งว่าพรข้อสุดท้ายจะเป็นจริงได้อย่างไรในเมื่อไม่มีพระสัตวาน พระยมจนด้วยคำถามจึงยอมปล่อยดวงวิญญาณของพระสัตวานกลับคืนเข้าร่างดังเดิม จากนั้นพรทุกข้อที่นางขอก็เป็นจริงทุกประการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น